มีออกมาพูดสอดคล้องตรงกันหลายคนนะครับ (ตามข่าวนี้ ก็ CEO ของบริษัทไฟเซอร์ ที่ออกมาพูดตรงกับ CEO ของบริษัทโมเดอน่า)
ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระดับโลก (pandemic) จะลดระดับลงใน 1 ปี กลายมาเป็นโรคประจำถิ่น (endemic) ที่อัตราการป่วยและเสียชีวิตอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างคงที่ คล้ายๆ กับที่เราอยู่กับโรคไข้หวัดใหญ่ (และกลุ่มที่เสี่ยงสูง ก็ยังคงต้องฉีดวัคซีนกันไปเรื่อยๆ ทุกปี)
เรื่องนี้ สอดคล้องกับที่ ศาสตราจารย์ ซาราห์ กิลเบิร์ต แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ผู้บุกเบิกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ก็คาดการณ์ทำนองเดียวกัน (https://www.komchadluek.net/news/485475)
ข่าวดีนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เราเจอกับความยากลำบากในรับมือสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และทำให้ระบบสาธารณสุขในหลายประเทศ (รวมทั้งไทยเรา) รับมือไม่ทัน มีคนติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แม้จะมีการฉีดวัคซีนไปมากแล้วก็ตาม
แต่ข้อดีคือ มันก็จะเป็นสายพันธุ์หลักที่เอาชนะสายพันธุ์อื่นๆ ในเรื่องการระบาด และเมื่อนานวันเข้า ผู้ที่ติดเชื้อก็จะมีมากขึ้น พร้อมๆ กับคนที่ฉีดวัคซีนก็มากขึ้นด้วย ทำให้อัตราการเกิดภูมิคุ้มกันในประชากรก็จะมีสูงขึ้นเรื่อยๆ และทำให้มันกลายเป็นโรคประจำถิ่นในเวลาประมาณ 1 ปีดังที่ว่า
แต่ทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของการไม่มีสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เอาชนะเดลต้า เกิดขึ้นนะครับ ... และเรายังคงที่จะต้องพยายามควบคุมระดับการระบาดของโรคเอาไว้เรื่อยๆ ไม่ให้รวดเร็วเกินไปจนระบบสาธารณสุขล่มอีก